ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operator)

ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operator)

            Operator ทางการเปรียบเทียบนั้นจะได้ค่าจากการคำนวณ TRUE (จริง) หรือ FALSE (เท็จ) เท่านั้น โดยทั่วไปจะใช้เพื่อนำไปตัดสินใจหาทางเลือกในฟังก์ชั่น
ตัวดำเนินการทางข้อความ (Text Operator)
            เครื่องหมายดำเนินการทางข้อความคือเครื่องหมาย & ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมข้อความหรือสูตรคำนวณ ทำให้สามารถแสดงผลที่ต่อเนื่องกันได้
ตัวดำเนินการอ้างอิง (Reference Operator)

            ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งบนแผ่นงานโดยใช้เครื่องหมาย , (Comma) : (colon) หรือเว้นวรรค (space) ในการอ้างอิงกลุ่มเซลล์บนแผ่นงาน
เครื่องหมายและลำดับการคำนวณ

            ตัวดำเนินการต่างๆนั้นมีลำดับสำคัญต่างกัน ซึ่งโปรแกรมจะประมวลผลมาจากตัวดำเนินการระดับสูงไปยังระดับรองลงมาหากภายในสูตรคำนวณเดียวกันมีตัวดำเนินการที่มีระดับความสำคัญเท่าๆกัน จะคำนวณจากซ้ายไปขวาจนครบ
ฟังก์ชันการคำนวณ
การใช้งานฟังก์ชัน
            ฟังก์ชันซึ่งคือสูตรการคำนวณที่ถูกสร้างไว้ มีลักษณะเหมือนคำสั่งสำเร็จรูป การทำงานเพียงแค่ระบุชื่อฟังก์ชันไปภายในเซลล์ที่ต้องการ หลังจากนั้นฟังก์ชันจะคืนค่าผลลัพธ์กลับมาให้ ฟังก์ชันภายใน Excel มีให้เลือกมากมาย ทั้งฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันทางการเงิน ฟังก์ชันทางสถิติ ฟังก์ชันทางข้อความ เป็นต้น
ส่วนประกอบของฟังก์ชัน
                รูปแบบการใช้งานฟังก์ชันนั้นจะคล้ายกับการป้อนสูตรคำนวณคือจะต้องนำหน้าด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) จากนั้นตามด้วยชื่อฟังก์ชันและค่าข้อมูล
ชื่อฟังชัน         ชื่อฟังก์ชันตามที่ Excel ได้กำหนดไว้ เช่นฟังก์ชัน SUM,COUNT เป็นต้น
ค่าของข้อมูล (Argument)       ค่าที่ต้องส่งให้ฟังก์ชัน ซึ่งจะอยู่ภายในวงเล็บ และการร้อง Argument  นั้นอาจจะใช้การอ้างอิงชื่อเซลล์แทนก็ได้
การใส่ฟังก์ชัน
            การสร้างสูตรคำนวณด้วยฟังก์ชัน สามารถเลือกฟังก์ชันโดยพิมพ์ชื่อฟังก์ชันลงไปเอง หรือเลือกฟังก์ชันจากกลุ่มคำสั่ง Function Library วิธีนี้ใช้ในกรณีที่ทราบฟังก์ชันและอาร์กิวเมนต์อยู่แล้ว โดยพิมพ์ชื่อฟังชันลงไปโดยตรงบนแถบสูตร แล้วเลือกอาร์กิวเมนต์ที่ใช้สำหรับฟังก์ชันนั้นๆสำหรับอาร์กิวเมนต์ที่เป็นชื่อเซลล์จะพิมพ์ลงไปเอง หรือคลิกเมาส์เลือกก็ได้ และสำหรับฟังก์ชันที่ใช้ในกลุ่มช่วงหนึ่งเป็นอาร์กิวเมนต์ ก็อาจใช้วีการลากเมาส์เพื่อใส่กลุ่มเซลล์ได้ด้วย

1.             คลิกในเซลล์ใส่เครื่องหมาย = (หรือสามารถใช้เครื่องหมาย + แทนได้)
2.             แสดงตัวช่วยใส่สูตรอัตโนมัติ Formula Auto Complete ทำการดับเบิ้ลคลิกที่ฟังก์ชันจะใช้
3.             ใส่วงเล็บเปิด แล้วพิมพ์หรือเลือกช่วงเซลล์ที่จะใช้เป็นค่าอาร์กิวเมนต์ (ช่วงเซลล์ G3:G11)
4.             กดปุ่ม Enter
การเลือกฟังก์ชันจากไลบรารี่
            Excel 2010 ได้รวบรวมรายชื่อฟังก์ชันไว้ให้เรียกใช้งานได้อย่างสะดวกใน Ribbon ชื่อ Formulas โดยอยู่ในกลุ่มชื่อ Function Library และจะแยกฟังก์ชันออกเป็นประเภทการใช้งานต่างๆ
การคำนวณหาผลรวมผลรวมอัตโนมัติ
            ทำได้โดย คลิกช่องเซลล์ที่ต้องการใส่ผลรวมอัตโนมัติ จากนั้น คลิกที่ปุ่มปรากฎฟังก์ชันดังรูป

การอ้างอิงช่องเซลล์
            หากกล่าวถึงเรื่องการคำนวณแล้วนั้น การอ้างอิงเซลล์จัดเป็นเรื่องที่ควบคู่กัน กล่าวคือหากมีการใช้งานสูตรคำนวณจะต้องมีการอ้างอิงข้อมูลที่บรรจุอยู่ในเซลล์ต่างๆกัน เพื่อให้สูตรการคำนวณที่สร้างขึ้นนั้นมีความยืดหยุ่นต่อการใช้งาน มากกว่าการระบุตัวเลขค่าคงที่ลงไปทั้งหมดเอง เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือตัวเลขใดๆในเซลล์ข้อมูล ผลลัพธ์ต่างๆก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาในการป้อนสูตรคำนวณอีกรอบ การอ้างอิงเซลล์สามารถกำหนดได้หลายรูปแบบดังนี้
                การอ้างอิงเซลล์ภายในแผ่นงานเดียวกัน
                        การอ้างอิงเซลล์ที่อยุ่ในแผ่นงานเดียวกันจะต้องมีชื่อคอลัมน์และชื่อแถวในการอ้างอิงดังรูปแบบ
การอ้างอิงเซลล์ที่อยู่ในแผ่นงานอื่น
            การอ้างเซลล์ที่อยู่ในแผ่นงานอื่นนั้น จะต้องมีชื่อแผ่นงานต้นทางแล้วตามด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) แล้วจึงพิมพ์ชื่อเซลล์ ดังรูปแบบ
การอ้างอิงเซลล์อยู่ในเวิร์คบุ๊คอื่น

            การอ้างเซลล์ที่อยู่ในเวิร์คบุ๊คอื่นนั้น จะต้องมีการอ้างอิงถึงชื่อของไฟล์เวิร์คบุ๊คแล้วตามด้วยชื่อแผ่นงาน และชื่อเซลล์ตามลำดับ

การอ้างอิงเซลล์แบบเจาะจง
            เมื่อผู้ใช้ทำการคัดลอกสูตรภายในเซลล์ต่างๆที่ถูกกำหนดไว้ในสูตรจะเปลี่ยนแปลงเองอัตโนมัติ แต่ในบางกรณีไม่ต้องการให้เซลล์เปลี่ยน ต้องการระบุเจาะจงที่เซลล์เดียว หรือกลุ่มเซลล์เพียงกลุ่มเดียว สามารถระบุได้โดยการใช้สัญลักษณ์ $ (Dollar Sing) ใส่ไว้หน้าเซลล์ เช่น $A1 คือเจาะจงคอลัมน์ แถวเปลี่ยนแปลงได้ หรือ A$1 คือเจาะจงแถว คอลัมน์เปลี่ยนแปลงได้ หรือ $A$1 คือเจาะจงแถว และคอลัมน์
การอ้างอิงเซลล์แบบเฉพาะเจาะจง สามารถกดปุ่มฟังก์ชัน F4 ที่คีย์บอร์ดเพื่อทำการใส่เครื่องหมาย $ โดยการกด F4

-                   กดครั้งที่ 1 จะเป็นการใส่ $ ทั้งหน้าคอลัมน์และแถว ($A$1)
-                   กดครั้งที่ 2 จะเป็นการใส่ $ หน้าแถว ($A1)
-                   กดครั้งที่ 3 จะเป็นการใส่ $ หน้าคอลัมน์ ($A1)

 ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ,ARIT ,  ARIP  ,  ส.ค.พ.ท.  







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น